.
 สถานะของเว็บ
วันที่สร้างเว็บ :9/12/2010
ปรับปรุงเว็บครั้งล่าสุดเมื่อ :8/12/2014
จำนวนคนเข้าชมเว็บนี้ :168228


BHA Gel
BHA Gel

รายละเอียดสินค้า
ชื่อสินค้า / บริการ : BHA Gel
รหัสสินค้า :000143
วันที่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด : 12/12/2012
ราคาสินค้า(ปกติ) : 120.00
ค่าขนส่ง : แสดงในหน้าตะกร้าสินค้า
สถานะสินค้า : สินค้ามาใหม่
 ระบุความต้องการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้ก่อนหยิบสินค้าลงตระกร้า
QTY :

 BHA คืออะไร

ริ้วรอยเหี่ยวย่น เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามเวลา วัย และสังขาร แต่ประชากรในเขตเมืองร้อนโดยเฉพาะประเทศไทย ค่อนข้างจะโชคร้ายกว่าประชากรในเขตอบอุ่นหรือเขตหนาว เพราะคนไทยต้องเผชิญกับอากาศร้อน และแสงแดดที่ร้อนแรง ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของสาเหตุที่ทำให้ผิวเหี่ยวย่น รวมทั้งความเครียด วิตกกังวลจนถึงวิตกจริต ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจและสภาพปัญหาสังคมที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ดังนั้น โอกาสที่ผิวโดยเฉพาะผิวหน้าจะเหี่ยวย่นจนมองเห็นได้ชัด จึงมีมาก ทำให้เครื่องสำอางที่มีการโฆษณาว่าช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือ ชะลอความชรา เป็นที่สนใจและไขว่คว้าซื้อกันมาใช้ ขณะเดียวกันธุรกิจเครื่องสำอางกลุ่มนี้ก็มีวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยี หรือการวิจัยและพัฒนาสูตรตำรับอยู่ตลอดเวลา บางครั้งมีการค้นพบสารใหม่ ๆ แต่บางครั้งยังคงใช้สารเดิม เพียงแต่มีการวิวัฒนาการ หรือปรับปรุงสูตรตำรับให้มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ตัวอย่าง เช่น Salicylic acid ซึ่งเป็นตัวเอกของ BHA ที่มาจากการเปิดตัวของเครื่องสำอางใหม่ยี่ห้อหนึ่ง โฆษณาโดยใช้จุดขายของผลิตภัณฑ์ว่ามีส่วนผสมของสาร บีเอชเอ (BHA) ทำให้หลายคนให้ความสนใจว่า BHA คืออะไร ต่างจาก AHA หรือไม่ อย่างไร บทความนี้เป็นการสรุปข้อมูลทางวิชาการที่ทำให้รู้จักสาร BHA ดีขึ้น แต่จะไม่สรุปว่าดีกว่า หรือด้อยกว่า เพราะการเปรียบเทียบประสิทธิภาพ หรือประสิทธิผลของสารใดสารหนึ่ง จำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัย เปรียบเทียบด้วยวิธีการและกระบวนการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และต้องอยู่บนพื้นที่ถูกต้องด้วย

BHA หรือ Beta hydroxy acid ตัวที่กำลังกล่าวถึงในที่นี้ คือ Salicylic acid (ซาลิซัยลิคแอสิด หรือ กรดซาลิซัยลิค) ซึ่งมีประวัติความเป็นมาดังนี้

-  ปี คศ.1827 Leroux ค้นพบสารสำคัญ คือ Salicin โดยสกัดได้จาก Willow bark เป็นสารในกลุ่ม bitter glycoside ต่อมาในปี คศ.1838 Piria ก็สามารถเตรียม Salicylic acid ได้จาก Salicin

-  ปี คศ.1844 Cahoues สามารถเตรียม Salicylic acid ได้จาก Oil of gaulthuria (oil of wintergreen) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผงสีเหลืองอ่อน หรือมีสีชมพูปนอยู่ด้วย มีกลิ่นหอมของ mint

ถึงแม้ว่าจะสามารถสกัด Salicylic acid ได้จากพืชก็ตาม แต่ Salicylic acid ที่ใช้ปัจจุบันส่วนใหญ่ ได้มาจากการสังเคราะห์ โดยในปี คศ.1860 Kolbe และ Lauterman ประสบความสำเร็จ ในการสังเคราะห์ Salicylic acid จาก Phenol จนกลายเป็นการผลิต ในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีลักษณะเป็นผลึกสีขาว หรือใสไม่มีสี หรือเป็นผงสีขาว และหากได้จากการสังเคราะห์จะไม่มีกลิ่น

จากประวัติความเป็นมา จะเห็นว่า Salicylic acid ซึ่งใช้ชื่อในการโฆษณาว่า BHA ไม่ใช่สารใหม่ แต่เป็นสารที่มีการใช้มานานแล้ว โดยเฉพาะการใช้ในทางการแพทย์และเครื่องสำอาง

การใช้ Salicylic acid ในทางการแพทย์

ในทางการแพทย์ใช้ Salicylic acid เป็นยาที่ใช้ทาภายนอกและใช้เฉพาะที่ในการรักษาโรคผิวหนัง ที่มีลักษณะหนาแข็งกระด้าง เนื่องจาก Salicylic acid มีคุณสมบัติเป็น keratolytic agent  กล่าวคือ จะทำให้ผิวชั้นนอกหลุดลอกออกไปได้เร็วขึ้น โดย Salicylic acid จะไปละลาย  intercellular cement ของผิวหรือแผ่นสะเก็ตของผิวหนังที่เคยเกาะติดกันในชั้น Stratrum corneum ให้ละลายแล้วหลุดลอกออกได้ง่ายขึ้น ยาที่ใช้ทาภายนอกที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid อยู่ด้วย และเป็นที่รู้จักกันดีมานานแล้ว คือ Whitfield's ointment ซึ่งประกอบด้วย Benzoic acid และ Salicylic acid ในอัตราส่วน 2:1 โดยทั่วไปใช้ Benzoic acid 12% และ Salicylic acid 6% ใช้รักษาเชื้อราที่ผิวหนัง รวมทั้งใช้ Salicylic acid colloidion ซึ่งประกอบด้วย Salicylic acid 10-20% ในการรักษาหูดและตาปลา หรือใช้ Salicylic acid 2-4% ผสมกับผง Talcum เป็นผงโรยเท้าใช้รักษาอาการเหงื่อออกมากผิดปกติที่เท้า

การใช้ Salicylic acid ในเครื่องสำอาง

ในวงการเครื่องสำอางใช้ Salicylic acid มานาน และใช้ในหลายวัตถุประสงค์  เช่น ใช้เป็นวัตถุกันเสีย เป็นวัตถุระงับเชื้อ และใช้ในผลิตภัณฑ์ทาผิวที่ทำให้ผิวนุ่ม เครื่องสำอางที่ใช้กับเส้นผม เครื่องสำอางที่ใช้ทาสิว ทาผิวหน้า

 ปริมาณที่ใช้ในเครื่องสำอาง  

ในยุโรปอนุญาตให้ใช้ Salicylic acid และเกลือของสารนี้เป็นวัตถุกันเสียในเครื่องสำอางได้ในปริมาณไม่เกิน 0.5 และห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ยกเว้นในแชมพู

เครื่องสำอางที่ใช้ทาผิวหน้าและทาผิวกายที่ผลิตในประเทศไทยมีการใช้ Salicylic acid เป็นส่วนผสม มีจำหน่ายมานานแล้ว ตัวอย่างเช่น ใช้เป็นวัตถุระงับเชื้อในผลิตภัณฑ์ หรือใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาสิว ทาผิวหน้า และใช้ทาผิวกาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทาผิวบริเวณที่แข็งกระด้าง เช่น ข้อศอก หรือส้นเท้า สำหรับเครื่องสำอางทาผิวหน้าและผิวกายให้ผิวอ่อนนุ่ม ลดริ้วรอยที่ผลิตในต่างประเทศก็มีการใช้ Salicylic acid เป็นสารสำคัญเช่นเดียวกัน แต่ใช้ชื่อว่า Salicylic acid จากปัญหาผิวเหี่ยวย่น และผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นเพื่อให้แลดูอ่อนกว่าวัย เป็นผลให้วงการเครื่องสำอางมีการวิจัยและพัฒนาตลอดเวลา จากเครื่องสำอางประเภทที่ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นเพียงอย่างเดียว มีการพัฒนาสูตรตำรับเพื่อให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น รวมทั้งมีผลต่อผิวเหี่ยวย่น ต้องการให้ผิวแลดูกระชับเปล่งปลั่ง และอ่อนนุ่มชวนมองและชวนสัมผัส จึงเป็นจังหวะที่ดีของสารทั้งในกลุ่ม AHA และ BHA หลังจากที่คำว่า BHA เป็นที่รู้จักแพร่หลายและคนส่วนใหญ่ทราบว่าผลของการใช้เครื่องสำอางที่มี BHA จะคล้ายกับผลที่ได้จากการใช้เครื่องสำอางที่มี AHA ทำให้มีคำถามอยู่เสมอว่า  BHA และ AHA มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ความเหมือนและความต่างระหว่าง BHA และ AHA

1.  ทั้งสองสารมีคุณสมบัติเป็นกรด จะมีสรรพคุณหรือผลต่อผิว เมื่อผลิตภัณฑ์มีความเป็นกรด ดังนี้

Salicylic acid  (BHA)ในเครื่องสำอางที่ใช้กับผิวหน้าใช้ในปริมาณ 1-1.5% มี ค่า pH* ประมาณ 2.8 (มีความเป็นกรดมาก)

AHA  ในเครื่องสำอางที่ใช้กับผิวหน้าใช้ในปริมาณ 3-15% มีค่า pH ประมาณ 3-5 (มีความเป็นกรดค่อนข้างมาก) *pH เป็นหน่วยวัดความเป็นกรด-ด่าง, ค่า pH ยิ่งต่ำยิ่งแสดงว่ามีความเป็นกรดยิ่งสูง

2.  ทั้งสองสารต้องอาศัยสารเสริมที่จะช่วยลดการระคายเคืองและมีสรรพคุณดีขึ้น เนื่องจากทั้งสองสารต้องอยู่ในสภาพที่เป็นกรด จึงมีโอกาสระคายเคืองต่อผิว และอาจทำให้ผิวไวต่อแสงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เครื่องสำอางที่มีสารเหล่านี้เป็นสารสำคัญ จะต้องเพิ่มสารที่มีคุณสมบัติปกป้องผิวหรือทำให้สภาพผิวดีขึ้น เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) Humectant หรือสารป้องกันแสงแดด (Sunscreen) หรือสารอื่น ๆ ที่จะช่วยลดการระคายเคืองที่เกิดกับผิว สารเสริมเหล่านี้จัดเป็นสารสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ต้องผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนา เป็นผลให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาตลอดเวลา ซึ่งชนิดและราคาสารเสริมเหล่านี้จะมีหลายประเภท หลายกลุ่ม และมีผลดีต่อผิวต่างกัน รวมทั้งมีผลทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ต่างกันด้วย

3.  ผลที่มีต่อผิว ทั้งสองสารจะทำให้ผิวชั้นนอกหลุดลอกออกไปได้เร็วขึ้น ทำให้ผิวที่อยู่ชั้นถัดไปที่ยังอยู่ในสภาพดีขึ้นมาแทน จึงมองเห็นว่าผิวมีสภาพดีขึ้น แต่เนื่องจากคุณสมบัติการละลายของสองสารต่างกัน ทำให้คุณสมบัติต่างกันบ้าง กล่าวคือ

AHA จะละลายได้ดีในน้ำ ส่วนใหญ่จะมีผลต่อผิวชั้นนอก ผ่านลงไปในผิวชั้นถัดลงไปได้น้อยกว่า

Salicylic acid  (BHA) ละลายได้ดีในไขมันผ่านลงไปในผิวชั้นถัดลงไปได้มากกว่า จึงมีผลต่อผิวชั้นที่อยู่ลึกลงไปได้มากกว่า

4.  ที่มาของสาร

AHA  ที่ใช้ในเครื่องสำอางมีทั้งที่มาจากธรรมชาติ และที่ได้จากการสังเคราะห์ ชนิดที่มาจากธรรมชาติมักเรียกกันว่ากรดผลไม้ ซึ่งจะมีสรรพคุณดีกว่า การระคายเคืองน้อยกว่าและราคาแพงมากกว่าชนิดที่ได้จากการสังเคราะห์

Salicylic acid  (BHA) ที่ใช้ในเครื่องสำอางส่วนใหญ่มาจากการสังเคราะห์

สรุป : ทั้งสองสารต้องอยู่ในสภาพที่เป็นกรด จึงจะมีคุณสมบัติทำให้ผิวดีขึ้นด้วยการทำให้ผิวชั้นนอกหลุดลอกออกไปได้เร็วขึ้น แต่สรรพคุณของผลิตภัณฑ์จะดีหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการพัฒนาสูตรตำรับที่จะใส่สารเสริมชนิดต่าง ๆ เข้าไปในผลิตภัณฑ์ สารทั้งสองชนิดมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการแพ้ และทำให้ผิวไวต่อแสงในการใช้ หากเกิดอาการยุบยิบเล็กน้อย อาจเป็นแค่อาการข้างเคียง แก้ไขโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวในปริมาณที่น้อยลง หรือหลีกเลี่ยงจากแสงแดด แต่หากเกิดอาการแพ้ ระคายเคืองอย่างชัดเจน ให้หยุดใช้ ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า ที่ฉลากของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ ส่วนใหญ่จะมีข้อความคำเตือนในทำนองดังนี้ 'ไม่ควรใช้บริเวณรอบดวงตาหรือเปลือกตา หากครีมเข้าตา ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด หากยังมีอาการระคายเคือง ควรปรึกษาแพทย์ หากเกิดผื่นแดงหรือระคายเคืองให้หยุดใช้' สิ่งที่ควรทราบคือ เครื่องสำอางกลุ่มนี้ ผู้ใช้ต้องใช้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่องตามวิธีใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักระบุให้ใช้วันละ 1-2 ครั้ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวจะเป็นไปทีละน้อย ค่อยเป็นค่อยไป ส่วนใหญ่ต้องใช้ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์ คนส่วนใหญ่ใช้เครื่องสำองมักคำนึงถึงแต่ส่วนดีที่จะได้รับจากเครื่องสำอาง และไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบในระยะยาว แต่ในมุมมองของนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง มีความกังวลและห่วงใยว่า โดยทั่วไป ผิวหนังชั้นนอกของคนเรามีการหลุดลอกออกไปตามปกติอยู่แล้ว แต่หากเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA และ AHA จะทำให้ผิวชั้นนอกหลุดลอกออกไปได้เร็วขึ้นกว่าปกติ จะมีผลต่อภูมิต้านทางของผิวหรือไม่ ในขณะที่สภาพสิ่งแวดล้อมเลวร้ายลงทุกขณะ ซึ่งในอนาคตอาจมีงานวิจัยใหม่ๆ ที่จะทำให้เราสามารถประเมินประโยชน์ และความเสี่ยงจากการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ได้ดียิ่งขึ้น คงต้องคอยติดตามกันต่อไป

Salicylic Acid (BHA) มีประสิทธิภาพในการลอกเซลล์ผิวเหมือนกับ AHA แต่ BHA จะพิเศษกว่าตรงที่ มันเป็นกรดที่ละลายไขมัน จึงทำงานโดยลงไปล้างไขมันที่ติดตามรูขุมขนให้หลุดออก จึงสามารถรักษาสิวพวกสิวเสี้ยน สิวอุดตันได้ อีกทั้งยังสามารถรักษาคนที่เป็น Acne Rosacea ได้อีกด้วย ผลข้างเคียงจะไม่มากเท่ากับพวกกรดวิตามินเอ เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวไม่มาก ข้อดีอีกอย่างของ BHA คือ เมื่อมันเข้าไปชะเอาไขมันที่ติดตามรูขุมขนออกแล้ว ทำให้ระยะยาวรูขุมขนที่เคยมีไขมันเกาะอยู่แล้วขยายหรือรูขุมขนกว้างก็จะกลับมาแคบลง

ข้อห้าม

-  ห้ามใช้กับคนที่แพ้ยา Aspirin
-  ใครที่กำลังใช้ควรระวังแดด และทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ต้องเจอแดด

--------------------------------------------------------------------------------

 สรรพคุณ   :  ช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างเซลล์ขึ้นใหม่ ทำให้ผิวขาวดูสดใสขึ้น ช่วยลดสิวเสี้ยน รอยหลุมจากสิว ผิวเนียนใสขึ้น เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาใบหน้าไม่สดใส ใบหน้าหมองคล้ำ ฝ้า – กระ รอยด่างดำจากสิว

ส่วนประกอบสำคัญ

 BHA 5  %  :  ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดสิวอุดตัน ขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขน ให้หลุดออกอย่างอ่อนโยน เร่งขบวนการผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างเซลผิวใหม่ ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น

 AHA 8  % Gel  :  ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพแล้ว โดยไปลดแรงยึดติดกันระหว่างเซลล์ ทำให้เซลล์ค่อยๆ หลุดออกมาเองตามธรรมชาติอย่างอ่อนโยน และยังกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ที่สดใสและแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

 Mixed Fruit Acid :  เป็น AHA ชนิดหนึ่ง ที่สกัดได้จากผลไม้หลากหลายชนิด มีประสิทธิภาพช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพแล้ว โดยไปลดแรงยึดติดกันระหว่างเซลล์ ทำให้เซลล์ค่อยๆ หลุดออกมาเองตามธรรมชาติอย่างอ่อนโยน และยังกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ที่สดใสและแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

วิธีใช้  : ทาทั่วหน้า โดยไม่ต้องล้างออก อาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง

ปริมาณบรรจุ

  7  ML. /  ราคา  120  บาท

17  ML. /  ราคา  390  บาท

35  ML. /  ราคา  600  บาท

*** สำคัญมาก ***

ก่อนที่ลูกค้าทำการสั่งซื้อ จะมีช่องระบุความต้องการเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้ ก่อนที่จะหยิบสินค้าลงตระกร้า กรุณาระบุขนาดที่ลูกค้าต้องการสั่งซื้อให้เราทราบด้วยนะคะ เพราะราคาที่โชว์หน้าร้านจะเป็นราคาของสินค้าไซด์เล็กสุด หากลูกค้าสั่งซื้อขนาดอื่น ราคาจะต้องเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่ราคาที่แจ้งไว้ในใบสั่งซื้อนะคะ เพื่อป้องการการผิดพลาด รบกวนลูกค้าระบุขนาด และรอคอนเฟิร์มยอดชำระ ก่อนที่จะโอนเงินมานะคะ

สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้าราคาขายส่ง กรุณาติดต่อสั่งซื้อทางโทรศัพท์ หรือทาง E-mail เท่านั้นนะคะ เพราะหากกดสั่งซื้อทางตระกร้าหน้าร้าน ระบบจะไม่คำนวณราคาส่งให้ เพื่อป้องกันการผิดพลาด ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือค่ะ

ประกาศ

ทางร้านขอแจ้งเปลี่ยนแปลงเวลาในการจัดส่งสินค้าใหม่นะคะ เนื่องจากตอนนี้ ทางร้านมีออเดอร์เข้ามาในแต่ละวันเยอะมากๆ จนเราไม่สามารถจัดเตรียมสินค้าให้ได้ทันเวลา ดังนั้นจึงมีการเปลี่ยนแปลงเวลาดังนี้ค่ะ


ทางร้านจะทำการจัดส่งสินค้าในเวลา 12.00 น. วันละ 1 รอบเท่านั้น (ภายในวันทำการ) และเนื่องจากเราต้องใช้เวลาในการจัดเตรียม และตรวจเช็คสินค้าก่อนทำการจัดส่ง จึงต้องรบกวนลูกค้าทุกท่านกรุณา โทรแจ้งโอนเงินมาก่อนเวลา 10.00 น.  ทางร้านจะสามารถจัดส่งสินค้าให้ท่านภายในวันนั้นได้เลยค่ะ แต่หากท่านแจ้งโอนมาเลยเวลาที่กำหนดไว้  สินค้าจะถูกจัดส่งให้ในวันทำการถัดไปนะคะ


สิ่งสำคัญมากๆ หลังจากโอนเงินมาแล้ว รบกวนลูกค้ากรุณาโทรแจ้งรายละเอียด ดังต่อไปนี้...ยอดเงินที่โอนเข้า / วัน / เวลาที่โอน / แจ้งชื่อ + ที่อยู่จัดส่งให้ทางร้านทราบ...สำคัญมากนะคะ เพราะอย่างที่ได้แจ้งให้ทราบข้างต้นว่าในแต่ละวันจะมีออเดอร์เข้ามาเยอะมาก ทั้งนี้เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการจัดส่ง และลูกค้าก็จะได้รับสินค้าอย่างรวดเร็วทันใจนะคะ ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความร่วมมือค่ะ

เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บร้านค้าสมาชิกของ SABUYJAISHOP ผู้ให้บริการทางการตลาดออนไลน์ สำหรับร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ที่ต้องการนำเสนอสินค้า โฆษณา ประชาสัมพันธ์ร้านค้า หรือสินค้าในร้าน
©2008-2010 SABUYJAISHOP All Rights Reserved